“แกงเลียง” เป็นแกงโบราณทางภาคกลาง มีน้ำแกงที่ไม่ใสและไม่ข้นจนเกินไป รสชาติเค็มนำและมีความเผ็ดร้อนจากพริกไทยตาม และยังขึ้นชื่อว่าเป็นซุปสมุนไพร เพราะผักที่ใส่ในแกงเลียงนั้นนับว่าเป็นสมุนไพรแทบทั้งหมด นอกจากนี้ แกงเลียงยังเป็นเมนูที่ให้พลังงานต่ำ แต่นับว่ามีคุณประโยชน์สูงมากจึงเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ
ในสมัยก่อน การทำแกงเลียงนั้นใช้เวลามากทีเดียว เพราะต้องโขลกเครื่องแกงเอง และยังมีกุ้งแห้งเป็นส่วนผสมของเครื่องแกงอีกด้วย ซึ่งการโขลกกุ้งแห้งให้ฟูนุ่มนั้น ต้องนำกุ้งแห้งไปแช่น้ำก่อนแล้วค่อยนำมาโขลก หลังจากนั้นจึงค่อยโขลกส่วนผสมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกะปิ กระเทียม และพริกไทย หากใส่อย่างใดอย่างหนึ่งมากไป ก็จะทำให้เครื่องแกงเลียงไม่อร่อย จึงทำให้ร้านอาหารบางร้านเลือกตัดเมนูแกงเลียงออกไป
อย่างไรก็ตาม ร้านอาหารยุคใหม่เลือกที่จะใช้เครื่องแกงสำเร็จรูปอย่าง รสดีเมนู แกงเลียง เพราะใช้เครื่องแกงที่คัดสรรวัตถุดิบมาเป็นอย่างดี ทั้งกะปิ กระชาย พริกไทย พริกแห้ง และเครื่องปรุงรสอื่น ๆ ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมและอร่อย เหมือนรสชาติดั้งเดิมไม่ผิดเพี้ยน อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนนอกจากนี้ รสดีเมนู แกงเลียง ยังสามารถนำมาใช้กับเมนูอื่น ๆ เช่น แกงเห็ด หรือแกงเปรอะได้อีกด้วย
รสชาติแฝงของแกงเลียงที่มัดใจหลายๆ คนได้ คือรสหวานกลมกล่อมปลายลิ้นจากผักหลากชนิด เคล็ดลับที่จะทำให้ได้น้ำแกงเลียงที่มีรสชาติเช่นนั้นคือ นำผักทุกชนิดยกเว้นใบแมงลักไปลวกให้สุกก่อน แล้วนำน้ำที่ได้จากการลวกผักมาใช้เป็นน้ำซุปสำหรับทำแกงเลียงต่อไป โดยนำน้ำซุปที่ได้ไปต้มจนเดือดจึงค่อยใส่ รสดีเมนู แกงเลียง ลงไป ตามด้วยกุ้งสด ต้มจนกุ้งพอสุกจากนั้นจึงใส่ผักที่ลวกไว้ทั้งหมดแล้วต้มต่อประมาณ 2 นาที ปิดท้ายด้วยใบแมงลัก วิธีนี้จะช่วยให้น้ำแกงเลียงและตัวกุ้งมีรสหวานละมุนยิ่งขึ้น และยังช่วยส่งเสริมหน้าตาของแกงเลียงให้ดูดี เอาไว้เสิร์ฟมัดใจลูกค้าได้อย่างสบาย ๆ