‘ชาบูคุมะ‘ อร่อยการันตี สูตรพี่หมีทำเอง
หากจะกล่าวว่าทุกวันนี้คือยุคเฟื่องฟูของธุรกิจชาบูก็ไม่ผิด เพราะหันไปทางไหนก็เจอร้านชาบู เปิดมาเอาใจสายหม้อต้มกันถ้วนหน้า
แต่ใครจะรู้ว่า ‘ชาบูคุมะ’ แห่งนี้อยู่กับชาวไทยมากว่า 9 ปี นับตั้งแต่ พ.ศ. 2553 จนปัจจุบัน ชาบูคุมะ มีถึง 5 สาขาด้วยกัน ได้แก่ เมืองเอก บางใหญ่ เกษตร งามวงศ์วาน54 และแม่กลอง ซึ่งชาบูคุมะ ได้ครองหัวใจคนรักชาบูทุกกลุ่ม ทั้งพนักงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มครอบครัว
ชาบูพี่หมี เติมสุขเต็มหม้อ
ที่มาของชื่อร้าน ชาบูคุมะ คุณหินเจ้าของร้านให้ความหมายว่า อยากให้ลูกค้ามาทานบุฟเฟต์แล้วรู้สึกอิ่มหมีพลีมัน มีความสุขไปกับรสชาติความอร่อย ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วคุณหินเป็นคนชอบทานชาบูมาก และในระหว่างนั้นได้เริ่มปรึกษาหาแนวทางการเปิดร้านชาบูร่วมกับเพื่อน เพราะแต่ก่อนร้านชาบูอร่อยและคุณภาพดี มักเป็นร้านชื่อดังในห้าง ซึ่งมีราคาสูง คุณหินจึงอยากเปิดร้านชาบูราคาย่อมเยาที่พนักงานเงินเดือน หรือวัยรุ่นทั่วไปเข้าถึงง่ายและทานได้บ่อยขึ้น โดยคุณภาพความอร่อยทัดเทียมกับเจ้าดัง ในราคาหัวละ 199 ถึง 299 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาสุดคุ้ม ที่คนรักบุฟเฟ่ต์พร้อมจ่าย
ในส่วนของสูตรความอร่อยนั้น คุณหินได้รับสูตรมาจากเชฟชาวญี่ปุ่น สองสูตรแรกที่ได้มาคือ ซุปน้ำใสและสุกี้น้ำดำต้นตำรับของญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามเมื่อเปิดร้าน คุณหินกลับพบว่าพฤติกรรมและความชอบของคนไทยนั้นต่างจากคนญี่ปุ่น คุณหินจึงทุ่มเทแรงกายแรงใจในการคิดค้นและปรับปรุงทุกอย่างด้วยตัวเอง เริ่มตั้งแต่ชิมและลงมือปรับสูตรน้ำซุปจนได้เป็นสูตรซุปน้ำใสสไตล์คุมะอันเป็นเอกลักษณ์ของร้าน ซึ่งลูกค้าต่างติดอกติดใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะคนไทยนิยมทานน้ำซุปรสชาติกลมกล่อม มีกลิ่นหอมเครื่องเทศเล็กน้อย นอกจากนี้ซุปสุกี้น้ำดำที่มีการทานแบบจุ่มเนื้อลงไปและใช้ไข่ไก่เป็นน้ำจิ้ม ก็ยังไม่ตอบโจทย์วิถีการกินของคนไทยเท่าที่ควร คุณหินจึงทดลองปรับปรุงสูตรจนได้อีกหนึ่งสุกี้น้ำดำที่มีรสชาติกลมกล่อมกำลังดี สามารถซดน้ำซุปได้ กลายเป็นที่มาของ ‘น้ำซุปคุมะ’ ซิกเนเจอร์ของทางร้าน ไม่เพียงแค่น้ำซุปสไตล์ญี่ปุ่นที่ปรับให้เหมาะกับลูกค้าชาวไทย แต่ทางร้านยังพัฒนาน้ำซุปสไตล์ไทยอย่างน้ำซุปต้มยำ เข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้า รวมถึงน้ำจิ้ม ไม่ว่าจะเป็น น้ำจิ้มสุกี้ น้ำจิ้มซีฟู้ด หรือน้ำจิ้มพอนซึ ที่เรียกได้ว่าอร่อยถูกปากลูกค้าเป็นอย่างมาก
มาตรฐานทุกจาน ต้องผ่านมือหมี
คุณหินกล่าวว่า การรักษามาตรฐานของรสชาติเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของกิจการร้านอาหารทุกประเภท ท่ามกลางยุคที่มีร้านชาบูเปิดแข่งกันเป็นจำนวนมากแน่นอนว่าลูกค้าที่มาทานชาบูประจำก็เพราะชอบในรสชาติของน้ำซุปซึ่งถ้ารสเปลี่ยนไป หรือไม่ถูกปากลูกค้าแม้เพียงครั้งเดียว ก็อาจทำให้ลูกค้าเสียความรู้สึกและเปลี่ยนใจไปจากเราได้ อย่างไรก็ตามคุณหินเชื่อมั่นในคุณภาพและรสชาติของชาบูคุมะว่าไม่เป็นรองใครในท้องตลาด เพราะทางร้านใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะคุณภาพอาหารที่ต้องได้มาตรฐานก่อนส่งตรงถึงมือลูกค้า อย่าง ‘น้ำซุปคุมะ’ น้ำซุปซิกเนเจอร์ประจำร้านที่ต้องมีส่วนผสมระหว่างซุปน้ำใสและสุกี้น้ำดำดั้งเดิมในปริมาณที่เหมาะสมลงตัว
นอกจากนี้คุณหินยังใส่ใจไปถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้ในการปรุงน้ำซุป โดยเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสของอายิโนะโมะโต๊ะ เพื่อรักษารสชาติที่ได้มาตรฐานมาโดยตลอด ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสของอายิโนะโมะโต๊ะนั้นมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงรสสัมผัสเวลาชิมที่ให้รสชาติละมุนลิ้น จึงสามารถนำมาประยุกต์ทำสูตรน้ำซุปได้หลากหลาย ไม่เพียงแค่น้ำซุป และน้ำจิ้มรสชาติดี เมนูเด็ดประจำร้านอย่างเนื้อก็ต้องดีด้วย ไม่ว่าจะเป็น เนื้อสไลด์ ริบอาย สันนอก หรือสันใน ทางร้านก็ตั้งใจคัดสรรค์เนื้อคุณภาพมาเพื่อสายเนื้อโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าสายเนื้อไม่ควรพลาด
ทำด้วยใจรัก คืออุดมการณ์หลักของพี่หมี
กุญแจสำคัญที่ทำให้ร้านประสบความสำเร็จคือคุณภาพของอาหารตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น ความใส่ใจก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณหินยึดมั่น เพราะคุณหินเชื่อว่าผู้บริหารร้าน ควรดูแลทุกรายละเอียด ให้ความสำคัญกับร้าน ต้องคอยชิม คอยหมั่นอัพเดตความรู้เพื่อพัฒนาสูตรใหม่ๆ และคอยสังเกตพฤติกรรมของลูกค้าอยู่เสมอ เช่น หากลูกค้าทานเหลือ ก็ควรตรวจสอบให้ได้ว่ามีสาเหตุมาจากอะไร อาจเป็นเพราะอาหารรสชาติเปลี่ยน หรือเพราะการตักเสิร์ฟของพนักงาน เป็นต้น เมื่อทราบสาเหตุแล้วเจ้าของกิจการต้องหาทางแก้ไขข้อบกพร่องให้ตรงจุดและเร็วที่สุด แน่นอนว่าการที่จะทำแบบนี้ได้นั้น ต้องมีใจรักในสิ่งที่ทำ เมื่อรักในสิ่งที่ทำ เจ้าของร้านก็จะมีความมั่นใจในการบริหารจัดการให้ทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น จนสามารถการันตีคุณภาพของร้านกับลูกค้าได้อยากภาคภูมิใจ
แนะนำ ‘มือใหม่’ ที่อยากเปิด ‘หม้อใหม่’
คุณหินให้คำแนะนำทิ้งท้ายสำหรับว่าที่เจ้าของกิจการมือใหม่ในตลาดที่สนใจอยากเปิดร้านชาบูเป็นของตัวเอง โดยสิ่งแรกที่ต้องมีคือใจรักในสิ่งที่ทำ ชอบในสิ่งที่จะขาย หากไม่รู้สึกชอบ ก็ควรศึกษาค้นคว้า ให้เจอก่อน ไม่ควรทำธุรกิจใดๆโดยคิดเพียงแค่อยากขายดีเท่านั้นเพราะเบื้องหลังการดูแลร้านอาหารนั้น มีรายละเอียดมากมาย ทั้งเรื่องการรักษามาตรฐานของคุณภาพอาหาร การดูแลผู้คนที่คัดเลือกเข้ามาบริการภายในร้าน รวมถึงการจัดสรรงบประมาณต่างๆ ซึ่งต้องใช้ความละเอียดมาก หากต้องการผลประกอบการที่ดี และเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้า อีกทั้งต้องคอยเอาใจใส่ลูกค้า เช่น หากมีลูกค้านิยมมานั่งทานคนเดียว ควรจัดสรรสถานที่ที่เหมาะสม และต้องให้ความสะดวกกับลูกค้าทุกกลุ่ม แน่นอนว่า การมีใจรักเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะช่วยให้คุณไม่ย่อท้อกับอุปสรรคใดๆ มีความสุขกับธุรกิจที่ทำ และดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างดีที่สุด